วันพุธที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2555

โครงการ พลังแผ่นดิน..พลังศรัทธาจากปวงประชารักในหลวง

โครงการ พลังแผ่นดิน..พลังศรัทธาจากปวงประชารักในหลวง




ร่วมสร้างพลังแห่งความดี ที่ยึดมั่นจากพ่อ ให้ขจรไกลไปยังท้องถิ่นและภูมิลำเนาที่เรารัก..

ร่วมหล่อหลอมพลังแห่งความรัก ที่ได้เห็นจากแนวทางที่พ่อสร้าง  ให้ประจักษ์แจ้งยังแหล่งศูนย์กลางชุมชน..

ร่วมเป็นดินที่เปี่ยมค่า คู่ควรความทรงจำ ดำรงไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์   ที่รักและเทิดทูน..

ร่วมกันแล้วจะก่อเกิดเป็นการให้ที่มากล้น แห่งความรอบรู้ของพ่อ   ถ่ายทอดสู่ไทย



คือความหมายของโครงการ พลังแผ่นดิน  ที่ เรากลุ่มดินฯ ต้องการพลังจากทุกท่านแบ่งปันความรักและภักดี มอบคืนสู่ชุมชน ด้วยการร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งในการเผยแพร่ พระราชกรณียกิจ คำสอน และความรู้ในแง่มุมต่างๆ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ขยายออกไปสู่ประชาชนในท้องที่ต่างๆทั่วประเทศ ในรูปแบบป้ายผ้าไวนิล สำหรับมอบให้กับ วัด โรงเรียน หรือองค์กรต่างๆ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ



เพียงคุณร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการนี้ สิ่งดีๆที่ควรค่าแห่งความภาคภูมิใจ ย่อมติดตรึงไปแสนนาน


โครงการ "พลังแผ่นดิน"







สถานที่  วัด โรงเรียน หรือองค์กรต่างๆที่ร้องขอมา






รายละเอียดของโครงการ





... เนื่อง ด้วยกลุ่มดินรักษ์ฟ้า มีวัตถุประสงค์ที่จะเผยแพร่ พระราชกรณียกิจ คำสอน และความรู้ในแง่มุมต่างๆ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อให้ขยายออกไปสู่ประชาชนในท้องที่ต่างๆทั่วประเทศ



โดย ให้สมาชิกของกลุ่มดินรักษ์ฟ้าได้มีส่วนร่วมในการขยายและเผยแพร่ต่อๆกันไป โดยทางกลุ่มฯได้มีการจัดทำแผ่นไวนิลที่มีบทความ ข้อมูล และความรู้ต่างๆเกี่ยวกับพระองค์ จำนวน 5 แผ่น
ขนาดแผ่นละ 1.50 x 2.65 เมตร โดยมีหัวข้อดังต่อไปนี้






1.    9 คำสอนของพ่อ (รวม 9คำสอนของพระองค์)






2.   พระผู้ครองแผ่นดินโดยธรรม ( บทความโดย ดร.วิษณุ เครืองาม )







3.  พ่อหลวงของไทย (ความสำคัญของสถาบันกษัตริย์ กับ มาตรา 112)











4.  เศรษฐกิจพอเพียง (หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง)








5.  กษัตริย์นักพัฒนา (ผลงานจากการพัฒนาประเทศของพระองค์)








โดยทั้ง 5 แผ่นนี้ทางกลุ่มจะแจกให้แก่วัด โรงเรียน หรือองค์กรต่างๆที่ขอมา โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น





โดยมีรายละเอียดในการเผยแพร่ดังนี้..

1.กลุ่มดินรักษ์ฟ้า จะถวาย หรือมอบให้กับวัด โรงเรียน หรือองค์กรใดๆที่เป็นสาธารณะ
2.ทาง วัด โรงเรียน หรือองค์กรใดๆนั้น จะต้องมีความจงรักภักดี และมีความต้องการที่จะร่วมมือกับทางกลุ่มดินรักษ์ฟ้าในการเผยแพร่จริงๆ ดังนี้
2.1. ควรนำไปติดตั้งภายในวัด โรงเรียน หรือองค์กรองค์กรนั้นๆ หรือในที่ๆประชาชนสัญจรผ่านตลอด
2.2. สำหรับวัดที่มีประชาชนเข้ามายืมของวัดเพื่อใช้ในงานต่างๆ สามารถให้ประชาชนช่วยนำไปเผยแพร่ในงานต่างๆ(เท่าที่พอจะทำได้)*ไม่บังคับ
2.3. วัด โรงเรียน หรือองค์กรนั้นๆ ควรนำออกมาติดตั้งภายในงานที่วัด โรงเรียน หรือองค์กร จัดขี้น เพื่อให้ได้เผยแพร่สู่สาธารณะทุกครั้ง









กติกาในการรับแผ่นไวนิลทั้ง 5 แผ่น มีดังนี้..

1.สมาชิก ของกลุ่มดินรักษ์ฟ้าทุกคนมีสิทธิ์ที่จะขอรับ โดยแจ้งชื่อวัด โรงเรียน หรือองค์กร ที่ต้องการรับแผ่นไวนิล พร้อมที่อยู่เป็นลายลักษณ์อักษร
2.สมาชิกท่านนั้นสามารถติดต่อวัด โรงเรียน หรือองค์กรที่จะนำไปมอบโดยตรง พร้อมกับแจ้งถึงวัตถุประสงค์ของกลุ่มดินรักษ์ฟ้าในการนี้
3.ต้องมีการส่งมอบอย่างเป็นพิธีการ และให้สมาชิกถ่ายรูปส่งกลับมาให้ทางกลุ่มฯเพื่อเก็บเป็นหลักฐาน



ค่าใช้จ่าย 2000 บาท/ 1ชุด



เนื่องจากค่าใช้จ่ายต่อชุดราคาไม่สูงมากนัก ทางกลุ่มฯมีความต้องการให้
สมาชิกทุกท่านได้มีโอกาศร่วมกันทำบุญ



-โดยจะขอรับบริจาคจากสมาชิคท่านละ 100บาท/ชุดโดยทางกลุ่มฯจะขึ้นชื่อท่านที่บริจาคไว้จนครบ
ยอดเงินแล้วจะปิดการรับบริจาคในชุดนั้นๆทันทีเมื่อครบแล้ว



-สำหรับผู้ที่มีความประสงค์จะบริจาคแต่ไม่ทันในชุดนั้นๆ สามารถเป็นรายชื่อต้นๆในชุดต่อไป
-สำหรับผู้ที่บริจาคแล้วแต่ต้องการจะบริจาคอีก สามารถลงชื่อต่อท้ายเอาไว้เพื่อร่วมบริจาคในชุดต่อไป
-สำหรับสมาชิกผู้ที่ติดต่อวัด โรงเรียน หรือองค์กร เพื่อนำไปมอบเอง สามารถมีส่วนร่วมในการบริจาค
ในชุดนั้นไม่เกิน 500บาท/ชุด
-ถ้าไวนิล ชุดไหนเอาขึ้นหน้ากลุ่มเพื่อรับบริจาค แล้วนานเกิน 15 วัน แต่ยอดบริจาคยังไม่ครบ
ท่านที่บริจาคแล้วสามารถเพิ่มยอดเงินบริจาคได้อีก






จึงเรียนมาเพื่อทราบ



กลุ่มดินรักษ์ฟ้า





ลิงค์ บทความทั้ง 5 แผ่น








สำหรับสมาชิกที่ต้องการร่วมทำบุญ สามาถบริจาคมาได้ที่



บัญชีเปิดในนาม 2 คน เพื่อรับบริจาคจากท่านที่มีจิตศรัทธา
เพื่อสนับสนุนการทำกิจกรรมอาสาของกลุ่ม



ชื่อบัญชี คัทรียา อัตถากร
และ บรรฑิต รัตนะ
...
ธ.ไทยพาณิชย์
บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 365-219641-7
สาขา เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์



หลังจากนั้นช่วยกรุณาแจ้งชื่อมาที่ dinrakfah@gmail.com



ขอขอบพระคุณ



********************************************************************************




กลุ่มดินที่กล้าหาญ ร่วมฮึดสู้
ด้วยจิตกล้า
ด้วยหัวใจเปี่ยมศรัทธา
เพื่อปกป้องฟ้าของเรา

วันอังคารที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2555

ขอสดุดีแด่ คุณทวี เทียนพัชรนัน คนดีที่พลัดพราก

มีคนเคยกล่าวไว้ว่า การพบกันเป็นสิ่งชั่วคราว การพลัดพรากจากกัน เป็นสิ่งสมบูรณ์
เพราะหากว่าเราไม่ได้พบกัน คงไม่มีวันได้พลัดพราก
เช่นนั้นแล้ว การลาจากที่กำลังระทมทุกข์ เหตุใดก่อนหน้านั้นมันเป็นความสุข…
หากเราโทษการพลัดพรากคือต้นเหตุแห่งทุกข์ เราก็ควรโทษความสุขยามแรกพบด้วย
ลองค้นหาความหมายที่แท้จริง ว่าคืออะไร..
หากรักนั้น เป็นนิรันดร์ มันจะต้องคงอยู่เหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง
เมื่อฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจากลาไป แต่เรายังคง เก็บความรู้สึกดี ไว้ได้เหมือนเดิม
นั่นคือความสมบูรณ์สุดท้ายของความรู้สึกที่มีตอบ และมอบให้กัน ใช่หรือไม่
เพราะถ้ายังไม่พลัดพราก ก็จะไม่รู้ว่าความรู้สึกดีนั้น มันสมบูรณ์พร้อมแล้วหรือยัง
…และกับความรู้สึกดีๆที่มีตอบ พร้อมมอบให้แก่กัน ระหว่างคุณทวี กับกลุ่มดินฯ
ก็ถือเป็นความสมบูรณ์พร้อมในด้านมิตรภาพที่อยู่ในกฎเกณฑ์ข้อนี้ เพราะในระหว่างเส้นทางที่ร่วมเดินด้วยกัน มีเรื่องราวแห่งกัลยาณมิตรที่น่าประทับใจหลายเรื่อง ดั่งเช่น..
.
.

.
.
เมื่อครั้งแรกเริ่มที่ได้มีโอกาสร่วมทำกิจกรรมกัน ที่ปากช่อง ในโครงการแรกของเรา ..ขอเป็นคนดีเพื่อพ่อหลวงรุ่น.1 ที่โรงเรียนบ้านลำทองหลาง ปากช่อง ในครั้งนั้นเป็นการรู้จักกันในครั้งแรก มีที่มา จากสังคม facebook แห่งนี้ โดยมีการติดต่อกันครั้งแรก ผ่านหน้าเพจฯกิจกรรมที่กลุ่มดินฯทำขึ้นเพื่อแจ้งข่าวให้สมาชิกทราบความเคลื่อนไหว … คุณทวี เคยกล่าวว่า รู้สึกชื่นชมในแนวทางของพวกเรา และได้ติดตามความเคลื่อนไหวมาระยะหนึ่งแล้ว
.
.
.
.
ในช่วงนั้น กลุ่มดินฯ มีกำหนดจัดกิจกรรมขึ้นที่ปากช่อง ซึ่งอยู่ใกล้กับรีสอร์ตของคุณทวี ที่อยู่บริเวณวังน้ำเขียว จากการติดตามข่าวจากหน้าเพจฯ กิจกรรม ของเรา แล้วมีความสนใจ อยากเข้าร่วมช่วยเหลือในกิจกรรมครั้งนั้นด้วย จึงโทรมานัดเจอกันเพื่อขอเข้าร่วมที่ โรงเรียนบ้านลำทองหลาง .. และพอถึงวันทำกิจกรรม แกก็มาเจอพวกเรา แถมหอบเอาขนมและผลไม้มากมาย มาช่วยแจกเด็กที่โรงเรียนกับเราด้วย นั่นถือเป็นการพบคุณทวีในครั้งแรก ที่เราประทับใจในมิตรภาพและความมีน้ำใจของแก
.
.
และหลังเสร็จจากงานกิจกรรม ได้มีโอกาสสนทนาวิสาสะกัน กับพวกเรา การพบประกันในวันนั้น ถือเป็นการจุดประกายไฟแห่งการสร้างสรรค์เพิ่มเติมให้กับกลุ่มดินฯอีกด้วย จากคำปรึกษาดีๆของคุณทวี ที่จะนำแนวทางธรรม ที่แกถนัดและชื่นชอบ มาร่วมกับแนวทางของเรา โดยคุณทวีมีแนวคิดจะนำพระที่ปฏิบัติจริงๆ มาชี้แนะให้แนวทางแก่เด็กๆเพิ่มเติมร่วมกับกิจกรรมหลักๆที่กลุ่มดินฯคิด
จากวันนั้น เป็นต้นมา คุณทวีจึงได้กลายเป็นกัลยาณมิตรที่คอยให้กำลังใจและติดตามผลงานของพวกเราเสมอมา
แต่อนิจจา.. น่าใจหายนัก เมื่อเราได้ทราบข่าวร้าย ว่า คุณทวีประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ระหว่างขับรถกลับบ้านที่ปากช่อง เมื่อเช้ามืดของวันที่7 มี.ค. ซึ่งตรงกับวันมาฆะบูชา พอดี และได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ..คุณทวี คนดี ที่เคยมีไมตรีเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ แก่กลุ่มดินฯ คนที่ยึดถือคุณธรรมนำหน้า เจตนาเพื่อสร้างสังคมให้สมดุลย์ ได้ถูกพลัดพรากจากไปแล้ว …น่าเสียดายจริงๆ ที่คนดี มีน้ำใจ เช่นคุณทวี ต้องจากลาไปก่อนเวลาอันควร 
.
.
และในโอกาสนี้ กลุ่มดินรักษ์ฟ้า จึงขอไว้อาลัยและร่วมแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ต่อครอบครัวเทียนพัชรนัน และหากสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่ได้กระทำด้วย กุศลจิต จนก่อเกิดเป็นแรงใจให้ใครต่อใครได้คิดดีและปฏิบัติชอบ ตามแนวทางที่บุคคลท่านนี้ได้ก่อร่างสร้างสมไว้ ขออุทิศผลแห่งความดีนั้น มอบคืนเป็นกุศล แด่ คุณทวี เทียนพัชรนัน จงเป็นสุขบนสวรรค์ นิรันดร

.
.
< .
.
วาสนานำพา ให้มาพบ
เมื่อมีจบก็ต้องจาก ยากจะฝืน
เพียงรอยยิ้มอิ่มใจ ได้หยัดยืน
เคยทุกข์สุขร่วมวันคืน ที่ผ่านมา
หากมิใช่พานพบ ใยพลัดพราก
ให้น้ำตาลาจาก ความห่วงหา
ความปวดร้าวเพียงตอกย้ำ กาลเวลา
สุขที่ได้ร่วมชะตา มาพบกัน
มีพบมีพลัดพราก และจากลา
เพียงเส้นทางรอยน้ำตา คือวิถี
หากเสียใจที่พลัดพรากจากก่อนมี
เหมือนเสียใจในไมตรี ที่แรกเจอ
ให้ความรักฝ่าข้าม ความทนทุกข์
กาลเวลาย่อมเปลี่ยนยุค อยู่เสมอ
ยังยึดมั่นจิตอาสา ฝันของเธอ
ขอดวงจิตพบเจอ สุขนิรันดร์..
ขอขอบคุณ :
@ ความคิดดีๆจากบทกวี คนเดินทาง
@ ความหมายซึ้งๆ จากคนเขียนเรื่อง นาย koko
@ ความคิดสร้างสรรค์ จากพี่น้องกลุ่มดินฯ
และกุศลเจตนาจากทุกท่าน ที่มาแสดงร่วมกัน ที่นี่
*** กลุ่มดินรักษ์ฟ้า***

“ขับไป ปลื้มไป”

“ขับไป ปลื้มไป”
ขอยกนิ้วให้รถแท็กซี่คันนี้

Admin เป้@Chatchanan Pad 


เจอTaxi คันนี้ วิ่งอยู่แถวลาดพร้าวประจำ 


ในรถมีรูปในหลวงเต็มไปหมด 


พวกเราจำทะเบียนไว้ 


ถ้าเจออย่าลืมทิปให้เค้าด้ว
ยนะครับ
*เราไม่รู้จัก แต่เราชื่นชม*
***กลุ่มดินรักษ์ฟ้า (DinRakFah)***

ครัวร่มไม้ ริมน้ำ จันทบุรี – รักในหลวง

ครัวร่มไม้ ริมน้ำ จันทบุรี – รักในหลวง
เป็นบ้านโบราญมีอายุนับร้อยปี  ซึ่งนำมาตกแต่งเป็นร้านอาหาร
มีการติดรูปพระบรมฉายาลักษณ์หลายรูปในร้าน
ซึ่งเป็นการประกาศเจตนาให้เห็นว่า
แสดงความจงรักภักดีต่อพระองค์ท่าน
บริการ อาหารไทย-อาหารป่า
เมนูแนะนำ ปลากะพงราดน้ำปลา ลาบปลาตะเพียน
ไข่ตุ๋นทะเล ไก่คั่วเกลือ นกกระจอกเทศผัดพริกไทยดำ
เก้งผัดกระวาน
อาหารอร่อย สะอาด บรรยากาศดี บริการด้วยมิตรภาพ
และ ที่สำคัญมากๆคือ รักในหลวง
อยู่ติดริมแม่น้ำจันทร์ 15 หมู่ 2 ตำบลจันทนิมิต
อำเภอเมืองจันทบุรี จันทบุรี 22000
โทร 081-9831217,081-5903136
เปิดเวลา 10:00-23:00 น.
เชิญชวนกันไปอุดหนุนนะครับ
ปวงประชารักในหลวง ทุกท่าน

————————
*** กลุ่มดินรักษ์ฟ้า (DinRakFah)***

พระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสพระราชทาน

พระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสพระราชทาน
เพื่ออัญเชิญไปอ่านในพิธีเปิดการประชุมยุวพุทธิกสมาคมทั่วประเทศ ครั้งที่ ๑๒
ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา วันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๑๓
“ในบ้านเมืองเราทุกวันนี้ มีเสียงกล่าวกันว่า
 ความคิดจิตใจของคนเปลี่ยนแปลงไปในทางที่เสื่อม
ความประพฤติที่เป็นความทุจริตหลายอย่าง
มีท่าทีจะกลายเป็นสิ่งที่คนทั่วไปพากันยอมรั
 และสมยอมให้กระทำกันได้เป็นธรรมดา สภาพการณ์เช่นนี้ย่อมทำให้
วิถีชีวิตของแต่ละคนมืดมัวลงไป เป็นปัญหาใหญ่
ที่เหมือนกระแสคลื่นอันไหลบ่าเข้ามาท่วมทั่วไปหมด
จำเป็นต้องแก้ไขด้วยการฝืนคลื่นที่กล่าวนั้น
ในการดำเนินชีวิตของเรา เราต้องข่มใจไม่กระทำสิ่งใด
ที่เรารู้สึกด้วยใจจริงว่า ชั่วเสื่อมเราต้องฝืนต้องต้านความคิด
และความประพฤติทุกอย่าง ที่รู้สึกว่าขัดต่อธรรมะ เราต้องกล้า
และบากบั่นที่จะกระทำสิ่งที่เราทราบว่า เป็นความดีเป็นความถูกต้อง
และเป็นธรรม ถ้าเราร่วมกันทำเช่นนี้ให้ได้จริง ๆ ให้ผลของความดีบังเกิดมากขึ้น ๆ
ก็จะช่วยค้ำจุนส่วนรวมไว้มิให้เสื่อมลงไป และจะช่วยให้ฟื้นคืนดีขึ้นได้เป็นลำดับ”
***กลุ่มดินรักษ์ฟ้า (DinRakFah)***

พระบรมราโชวาทพระราชทานแก่คณะกรรมการจัดงาน “วันรพี”


พระบรมราโชวาทพระราชทานแก่คณะกรรมการจัดงาน “วันรพี”
ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน วันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๑๖
“อันกฎหมายนี้ก็เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับบ้านเมือง
เพราะว่าเป็นหลักของการอยู่ร่วมกันในชาติบ้านเมือง
เพื่อให้การอยู่เป็นระเบียบเรียบร้อย
และให้ทุกคนที่อยู่ในชาติสามารถที่จะมีชีวิตรุ่งเรืองโดยไม่เบียดเบียนกัน
กฎหมายมีไว้สำหรับให้มีความสงบสุขในบ้านเมือง
มิใช่กฎหมายมีไว้สำหรับบังคับประชาชน
ถ้ามุ่งหมายที่จะบังคับประชาชนก็กลายเป็นเผด็จการ
กลายเป็นสิ่งที่บุคคลหมู่น้อยจะต้องบังคับบุคคลหมู่มาก
ในทางตรงข้าม กฎหมายมีไว้สำหรับให้บุคคลส่วนมากมีเสรี
และอยู่ได้ด้วยความสงบ บางทีเราตั้งกฎหมายขึ้นมาก็ด้วยวิชาการ
ซึ่งได้มาจากต่างประเทศ แต่วิชาการนั้นอาจไม่เหมาะสม
กับสถานการณ์หรือท้องที่ของเรา
ถ้านักกฎหมายศึกษาในทางกฎหมายโดยแท้ ไม่ได้สนใจในปัญหาที่แท้จริง
มัวแต่มาดูทางทฤษฎีของกฎหมายก็จะไม่เกิดประโยชน์ได้
แต่ถ้านักกฎหมายหรือที่สนใจกฎหมายได้ไปดูข้อเท็จจริงต่าง ๆ
กฎหมายจะช่วยให้บ้านเมืองมีความเรียบร้อย”
***กลุ่มดินรักษ์ฟ้า (DinRakFah)***

ครูเกียรติ บ้านดิน ศิลปินรักษ์พ่อ


ครูเกียรติ กับศิษย์
    การออกตามหาคนดีของพ่อ ของกลุ่มดินฯ ลำดับที่สอง คือ ครูเกียรติ หรือชื่อ-สกุลจริงตามบัตรประชาชนว่า  ทรงเกียรติ  สุรพงษ์พิทักษ์  บุคคลท่านนี้นี่เอง ที่เป็นแรงบันดาลใจ ให้เกิดไอเดีย โครงการขอเป็นคนดี รุ่นแรกขึ้น จากการได้พบปะและสนทนากัน ในวันเวลาแห่งมิตรภาพ ที่บ้านดินของเขา กับก้อนดิน3ก้อนในวันนั้น ที่ยังไม่ได้เป็นดินก้อนใหญ่ เหมือนในทุกวันนี้   ครูเกียรติ จึงเปรียบเสมือน..ชิ้นส่วนที่ขาดหายไป ที่เรากำลังออกตามหามาเติมให้เต็มฝัน ในการร่วมกันทำเรื่องราวดีๆสักเรื่อง ในฐานะ ลูกของพ่อ ด้วยกัน
 ปฐมบท
: บ้านดิน ของครูเกียรติ    แรงบันดาลใจให้เด็กเดินตาม ด้วยวิถีพอเพียง 
บ้านดิน ของครูเกียรติ

มุมเก็บผลงานศิลปะในบ้านดิน มุมนอนคลาสสิคในบ้านดิน

ห้องน้ำแบบไม่มีหลังคา..เอาไว้ชมจันทร์
ครัวแบบอินดี้
 
มุมรับแขกหน้าบ้าน โอ่โถงโล่งสบาย
บรรยากาศยามค่ำคืน
 
เลยบ้านดินไปเล็กน้อย จะเจอน้ำตกแบบอันซีน..แต่โปรดระวัง มาเฟียระแวกนั้นด้วย
 
บทที่2. ประวัติพอสังเขป
 
 ชื่อ : ทรงเกียรติ สุรพงษ์พิทักษ์
การศึกษา : ปริญญาตรี ด้านศิลปะ  จากเพาะช่าง
อาชีพหลัก : ครูพิเศษสอนศิลปะ โรงเรียนบ้านหนองอีเหลอ และโรงเรียนบ้านลำทองหลาง
อาชีพเสริม           : วาดภาพ
งานอดิเรก : ศึกษาเรื่องบ้านดิน
     จากเด็กหนุ่มจบเพาะช่าง ที่หลงใหลในงานศิลปะ ชอบเขียนภาพและใฝ่ฝันจะมีสตูดิโอ ไว้โชว์ผลงานส่วนตัว  ทำไมเขาถึงเลือกหันเหชีวิตศิลปินที่ตั้งเป้าหมายไว้ในอนาคต เบนเข็มขึ้นยอดเขาที่ปากช่อง
 อะไรเป็นแรงบันดาลใจให้เขา  ตามผู้เขียนมาพูดคุย ดูมุมมองและไลฟ์สไตล์ ของครูเกียรติ ครูพิเศษสอนศิลปะ แห่งโรงเรียนบ้านลำทองหลาง กันครับ
   และบทสนทนาของครูเกียรติ ด้านล่างนี้ ..เกิดขึ้นและบันทึกไว้ด้วยตัวผู้เขียนเอง เมื่อครั้งได้อาศัยบ้านดินเป็นที่พักค้างแรม ขณะออกงานภาคสนาม สำรวจข้อมูลเพื่อทำกิจกรรมกับกลุ่มดินฯในโครงการ ขอเป็นคนดีเพื่อพ่อหลวง รุ่นแรกที่ปากช่อง  ถูกกลั่นกรองมาเป็นบทสนทนาเพื่อบอกเล่ารายละเอียดตัวตน ของคนๆหนึ่งที่ยึดถือในแนวทางพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาปรับใช้ในวิถีชีวิตของตัวเองอย่างมีความสุข  พร้อมทั้งใช้ความรู้ในวิชาชีพของการเป็นครู ถ่ายทอดให้เหล่าลูกศิษย์ตัวน้อยค่อยๆซึมซับผ่านภาพวิถีชีวิตแห่งบ้านดิน ข้างๆโรงเรียน
 บทที่3  สนทนาหาตัวตน

ผลงานลูกศิษย์ อีกหนึ่งความภาคภูมิใจ
 ผู้เขียน : อาจารย์ มาไงไปไงครับ ถึงมาปลีกวิเวกอยู่ที่นี่ตามลำพัง
 ครูเกียรติ :     มาเที่ยวก่อนครับ มาหาที่วาดรูป ตระเวนไปทั่วปากช่องนั่นแหละ พอดีมาเจอที่แถวๆนี้ เห็นว่าสวยและบรรยากาศดีมากๆมีทั้งภูเขาและน้ำตกอยู่ใกล้บ้าน แถมเป็นที่ของคนรู้จักกัน เลยขอความเมตตาเค้า ขอซื้อซักแปลงนึง ไว้ปลูกบ้าน ปลูกต้นไม้
 ผู้เขียน : แล้วมาสอนวิชาศิลปะให้เด็กๆที่โรงเรียน ได้ยังไงครับ
 ครูเกียรติ :   ช่วงนั้นเป็นครูพิเศษสอนวิชาประวัติศาสตร์ให้ โรงเรียนบ้านหนองอีเหลออยู่ก่อนแล้ว จากงบไทยเข้มแข็งของรัฐบาลน่ะครับ แล้วพอดี ครูที่โรงเรียนบ้านลำทองหลาง มาเห็น ได้พูดคุยกัน แล้วชอบใจในแนวทาง แกเลยชวนไปสอนศิลปะให้กับเด็กที่โรงเรียน โดยให้เอาผลงานศิลปะไปให้โรงเรียนเพื่อขอออดิชั่นดูก่อน ปรากฏว่าเย็นนั้นรู้ผล วันรุ่งขึ้นเลยได้สอนประวัติศาสตร์ควบคู่กับศิลปะ ไปพร้อมกันทั้ง2โรงเรียนครับ
 (บ้านครูเกียรติกับโรงเรียนอยู่ติดกัน แค่มุดรั้วลวดหนาม เดินไปนิดเดียวก็ถึง)
 ผู้เขียน :   แล้วบ้านดินหลังนี้ สร้างเองหรือเปล่า เอาแบบมาจากไหน และทำไมต้องบ้านดินครับ
 ครูเกียรติ : บ้านดินนี่ สร้างเองครับ ตั้งแต่ขึ้นโครงบ้านเลย ค่อยๆทำไปเรื่อยๆเหนื่อยก็หยุด ดินก็ขุดเอาแถวนี้แหละ เอามาปั้นและยัดลงในแบบบล็อก เหมือนก่ออิฐน่ะ  นานเหมือนกัน เบ็ดเสร็จพร้อมเข้าอยู่ก็ประมาญ 3เดือนกว่าครับ  แต่หลังคานี่ชาวบ้านเค้ามาช่วยกันลงแรง (เหมือนลงแขกเวลาทำนา คือไม่ต้องจ่ายเงินจ้าง แต่ใช้วิธีผลัดกันมาช่วย หมุนเวียนกันทำ เขามาช่วย เราก็ต้องไปช่วยคืน-ผู้เขียน)
ชาวบ้านลงแขก ช่วยกันมุงหลังคาบ้านดิน
 รูปแบบบ้านดินนี่ มาจากความชอบส่วนตัวอยู่ก่อนแล้วครับ บวกกับศึกษาค้นคว้าจากตำหรับตำราบ้าง ประยุกต์แต่งเติมตามแนวคิดของตัวเองเข้าไปบ้าง
 ..ส่วนที่ต้องทำบ้านดินน่ะเหรอ ชอบนะ มันเป็นศิลปะอีกแขนงนึง แล้วดินที่นี่ก็เหมาะมากมีส่วนผสมที่ลงตัวพอดี  อีกอย่างผมชอบชีวิตเรียบง่าย แบบพอเพียง ได้อยู่กับธรรมชาติ ได้ปลูกฝังศิลปะให้กับเด็กๆ มันเลยเป็นอะไรที่ลงตัวพอดีครับ
 ผู้เขียน : สิ่งที่คาดหวังกับเด็กกับสิ่งที่สอนล่ะครับ
 ครูเกียรติ:   อยากให้เด็กเรียนศิลปะแบบถูกต้องตามหลักวิชาการตั้งแต่เล็กๆ โดยจะสังเกตุและดูแววของเด็กแต่ละคนครับ ใครมีแววก็พร้อมจะส่งเสริมและสนับสนุนให้เก่งต่อไปครับ
 เช่น ภายในโรงเรียนก็ติดประกาศที่บอร์ดให้เด็กที่มีผลงานดีๆได้โชว์ความสามารถเป็นการสร้างแรงจูงใจ   ส่วนภายนอกโรงเรียน ก็จะส่งเด็กไปประกวดแข่งขันวาดภาพตามที่อำเภอหรือจังหวัดจัดกิจกรรมขึ้น
 ผู้เขียน : สุดท้ายครับอาจารย์ อยากฝากอะไรถึงสังคมภายนอกรั้วโรงเรียน อยากเพิ่มอะไรให้กับโรงเรียนหรือเด็กๆครับ
 ครูเกียรติ :   ครับ ก็อยากให้มีการจัดกิจกรรมดีๆ ส่งเสริมความรัก ความสามัคคีให้กับเด็กมากๆ และทั่วถึงครับ อย่างน้อย ให้เด็กได้ซึมซับเกี่ยวกับ ในหลวง ให้รักท่าน จากสิ่งที่ท่านทำให้พวกเรา ไม่ใช่สอนให้เด็กกราบและไหว้ โดยไม่รู้ที่มาที่ไป เพราะเด็กที่เกิดยุคสมัยนี้ ข่าวสารหรือการทรงงานของพระองค์ท่านก็ซาๆลงไปเพราะสุขภาพของท่านไม่แข็งแรงเหมือนสมัยเรา
นิยามง่ายๆของชายคนนี้คือ ศิลปะ + ดนตรี = ความสุข
  … และนี่คือ บริบทอันสวยงาม ของวิถีชีวิต ครูพิเศษสอนศิลปะ แห่งโรงเรียนบ้านลำทองหลาง ครูหนุ่มผมยาว อารมณ์ดี มีชีวิตเรียบง่าย  ที่อยากถ่ายทอดวิชาศิลปะให้กับเด็กๆ มากกว่าต้องการค่าจ้างค่าออนใดๆ และที่สำคัญที่สุด อยากให้เด็กรักถิ่นฐานบ้านเกิดและปลูกฝังเมล็ดพันธ์แห่งรักและศรัทธาต่อสถาบันให้หนูน้อยเติบโตเป็นอนาคตของชาติที่ดีต่อไป    นับเป็นวิถีชีวิตพอเพียง และเป็นแบบอย่างที่น่ายกย่อง ของคนที่อุทิศตนเพื่อเด็กตามชนบท อย่างแท้จริง ซึ่งเหมาะสมอย่างที่สุด กับการเป็นคนดี ของพ่อ ที่เราออกตามหา   เพื่อบันทึกไว้ ในแบบฉบับที่คนทำดี
ต้องได้รับการยกย่องและเชิดชู
 หมายเหตุ  : ท่านใดสนใจศึกษาเรื่องบ้านดินแบบเจาะลึก ครูเกียรติแจ้งว่า
ยินดีให้คำชี้แนะด้วยความยินดียิ่ง
 เผยแพร่บทความครั้งแรก โดย kokoseven ที่ 2010-05-24 12:41:14น.
ในบทความเรื่อง
.. ปลูกจิตสำนึก ด้วยรักและศรัทธา ให้หนูน้อยรักสถาบัน กับกิจกรรมดีๆ
 และอัพเดทเนื้อหา เพื่อเผยแพร่อีกครั้ง สำหรับ
บทความ ตามหาคนดีของพ่อ กลุ่มดินรักษ์ฟ้า
ขอขอบคุณ :   บุคคลต้นแบบ คนดีของพ่อ อีกหนึ่งความภูมิใจ
ในการตามหาคนดีของพ่อในครั้งนี้
  “ครูเกียรติ บ้านดิน”

By Koko DinRakFah Blog