วันอังคารที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2555

โครงการสร้าง โบสถ์ดิน เพื่อถวายเป็น พระราชกุศลให้ พ่อหลวง

โครงการสร้าง โบสถ์ดิน เพื่อถวายเป็น
พระราชกุศลให้ พ่อหลวง

ณ วัดสันติวรคุณ (บ้านสำนักขาม ทางไปด่านนอก)อ.สะเดา จ.สงขลา
(ความร่วมมือระหว่าง อุเทนถวาย-ปทุมวัน)
พันธมิตร สงขลา และวิทยุ สงขลารวมใจ FM 95.50 Mhz หาดใหญ่
ร่วมสนับสนุนโครงการ
http://www.songkhlaruomjai.com/
โครงการสร้างโบสถ์ดิน วัดสันติวรคุณ อ.สะเดา จ.สงขลา
(ความร่วมมือระหว่าง อุเทนถวาย-ปทุมวัน)
วันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2554 แถลงข่าวโครงการสร้างโบสถ์ดิน
แบบบดอัดประยุกต์แบบใหม่ วัดสันติวรคุณ

ความเป็นมา

สมเด็จพระสังฆราช สร้างโบสถ์ดินแห่งแรกในประเทศไทย โดยใช้ดิน
จากเนปาล-อินเดีย-ปากีสถาน มาสร้างเป็นต้นแบบวัดพอเพียง
ถวายในหลวง 84 พรรษา…
เมื่อวันที่ 18 ก.พ. พระราชรัตนมงคล สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช
ในฐานะที่ปรึกษาโครงการสร้างอุโบสถดิน ถวายเป็นพระราชกุศลแด่
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสเจริญพระชนมายุ 84 พรรษา
5 ธันวาคม 2554 เปิดเผยว่า สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช
สกลมหาสังฆปริณายก ทรงรับเป็นองค์อุปถัมภ์การสร้างอุโบสถดินแห่งแรก
ในประเทศไทย เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในวโรกาสเจริญพระชนมายุ 84 พรรษา 5 ธันวาคม 2554
ในพื้นที่บ้านห้วยยาง อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร โดยจะมีการสร้าง
อุโบสถ กุฎิ เจดีย์ ที่ทำจากดินทั้งหมด ซึ่งทางสำนักเลขานุการ
สมเด็จพระสังฆราช จะนำดินจากที่สังเวชนียสถาน 4 แห่ง
จากประเทศเนปาล อินเดีย และดินจากพระสถูปโบราณสมัย
พระเจ้าอโศกมหาราช จากเมืองตักศิลา ประเทศปากีสถาน
มาผสมเพื่อความเป็นสิริมงคลในการสร้างอุโบสถดินด้วย
นอกจากนี้ สมเด็จพระสังฆราช ยังได้ประทานพระพุทธรูปปางสมาธิ
ขนาดหน้าตัก 9 นิ้ว ที่แกะสลักจากหินหยกที่ได้อัญเชิญมาจาก
ประเทศอินเดีย เตรียมนำมาประดิษฐานเป็นพระประธาน
เมื่ออุโบสถสร้างเสร็จแล้วอีกด้วย

สำหรับอุโบสถดิน จะมีขนาดกว้าง 7 เมตร ยาว 15 เมตร จะจุพระได้
ไม่น้อยกว่า 50 รูป โดยจะใช้งบประมาณจัดสร้างไม่เกิน 1 ล้านบาท
ส่วนกุฏิดินจะจัดสร้าง 2 หลัง ราคาหลังละไม่เกิน 100,000 บาท
ซึ่งแรงงานที่จะนำมาจัดสร้างจะเป็นผู้ต้องขังในเรือนจำที่กำลังจะ
พ้นโทษ ที่ผ่านการอบรมการฝึกอาชีพก่อสร้างบ้านดินของกรมราชทัณฑ์
มาร่วมจัดสร้างเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระสังฆราชฯ
และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในการทำความดีให้สังคม
อย่างไรก็ตาม ตนและพระครูสังฆสิทธิกร หัวหน้าฝ่ายศาสนวิเทศ
สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราชนำคณะอธิบดีกรมราชทัณฑ์
ได้ลงพื้นที่ จ.สกลนคร สำรวจพื้นที่และประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ในการดำเนินโครงการดังกล่าวแล้ว โดยทางจังหวัดเห็นว่า วัดป่าพุทธนิมิต
เป็นวัดกรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ปัจจุบันมีพระครูปลัดสมบัติ
อาภัสสโร เป็นเจ้าอาวาส ในพื้นที่ 14 ไร่ 70 ตารางวา
เหมาะที่จะสร้างอุโบสถดินมากที่สุด
“อุโบสถดินและศาสนสถาน ที่สมเด็จพระสังฆราชฯ ทรงสร้างถวายพระบาท
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเป็นไปตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง
ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโดยจะให้วัดดังกล่าวเป็นต้นแบบของ
การสร้างอุโบสถอย่างพอเพียงไม่เกิน 1 ล้านบาท เพราะปัจจุบันมีการสร้าง
พระอุโบสถในราคาสูง 10 ถึง 100 ล้านบาท แต่ไม่คุ้มค่าประโยชน์การ
ใช้สอย เพราะบางวัดมีพระจำพรรษาเพียงแค่ไม่กี่รูป และสอดคล้องกับ
แนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่ทรงเน้นให้
สร้างวัดแบบประหยัดและคุ้มค่าจากการใช้งาน”ที่ปรึกษาโครงการฯกล่าว

ในส่วนพื้นที่ที่จะจัดสร้างอุโบสถดิน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี เคยเสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดอ่างเก็บน้ำห้วยโท
ห้วยยางอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ทรงให้ความสำคัญกับพื้นที่ดังกล่าว
ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจพื้นที่ การดูแลการจัดสร้าง พร้อมเปิดดำเนินการ
ด้วยพระองค์เอง พร้อมกับเชิญคณะทูตานุทูตมาร่วมเป็นสักขีพยานใน
การเปิดอ่างเก็บน้ำเมื่อวัน ที่ 30 พ.ย. 2532 ซึ่งทำให้ประชาชนในพื้นที่
ได้ชื่อว่า ยากจนที่สุดในจังหวัด จากความแห้งแล้ง ข้าวไม่พอบริโภค
ปัจจุบันสามารถทำนาได้ปีละ 2 ครั้ง และเป็นหมู่ที่มีรายได้จากการ
เพาะกล้าไม้ส่งขายปีละไม่ต่ำกว่า 27 ล้านต้น มีรายได้ประมาณ
50 ล้านบาทต่อปี จึงทำให้พื้นที่นี้เป็นที่สนใจของนักวิชาการ
ทั้งในและต่างประเทศมาศึกษาดูงานเป็นจำนวนมากในการเป็น
ต้นแบบของการพลิกชีวิตประชาชนจากยากจนมาอยู่ดีกินดี

แถลงข่าว “อุเทนอาสาสร้างโบสถ์ดินแบบบดอัดวัดสันติวรคุณ ”

วันพุธที่ 12 ตุลาคม 2554
ด้วยสำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ได้จัดโครงการสร้างพระอุโบสถ์
ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดำรัสของพระบาท
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่เจ้าประคุณ
สมเด็จพระญานสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก
ในวโรกาสที่เจริญพระชนมายุ 99 พรรษา และได้มีหนังสือที่
อ 001/2554 เพื่อขอความอนุเคราะห์มายังมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี
ราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ซึ่งคณาจารย์และนักศึกษ
าอุเทนถวายมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะสร้างโบสถ์ดินแบบบดอัด
ที่วัดสันติวรคุณ ซึ่งตั้งอยู่ ต.สะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา
ระหว่างวันที่ 18 ตุลาคม ถึง 2 พฤศจิกายน 2554 ระยะเวลาการก่อสร้าง
16 วันโดยได้ประสานงานร่วมกับสถาบัน เทคโนโลยีปทุมวันทาง
วิชาการในส่วนงานออกแบบเครื่องมือกลทุ่นแรงพิเศษ ระบบไฟฟ้า
เพื่อใช้สำหรับบดอัดผนังโบสถ์ดิน / ระบบไฟฟ้าแบบท่อฝังในผนังโบสถ์
และกลุ่มนักศึกษาทั้งสองสถาบันจัดกิจกรรมเชิญชวน ให้สารธารณชน
มีส่วนร่วมในการบริจาคเงินสนับสนุนโครงการและในส่วนของ
อุเทนถวาย

การสร้างโบสถ์ดินมีรายละเอียดดังนี้

- งบประมาณทั้งสิ้น 1.5 ล้าน ± 10 %
- ระยะเวลาการก่อสร้าง 16 วัน
- การก่อสร้างใช้แรงงานนักศึกษาอุเทนถวายเป็นแกนหลัก จำนวน 40 คน
- ความกว้าง 7 เมตร
- ความยาว 15.5 เมตร
- ความสูงจากพื้นดินถึงยอด 7.85 เมตร
-สามารถจุพระได้มากกว่า 21 รูป
- ผนังโบสถ์ใช้ระบบแบบบดอัด หนา ถึง47 เซนติเมตร
  (ผนังโบสถ์คืออฺฐขนาดใหญ่เพียงก้อนเดียว)
- ใช้ดินลูกรังท้องถิ่น 160 ลูกบาศก์เมตร ผสมปูนซีเมนต์ 10 % โดยปริมาตร
- ประตู-หน้าต่าง ใช้แผ่น VIVA BOARD เป็นโครงสร้างกรอบบาน
- หลังคาใช้วัสดุมุมด้วยปีกไม้สน cedar
ดังนั้นด้วยนวัตกรรมการก่อสร้างโบสถ์ดินแบบบดอัดประยุกต์นี้ เน้นหลัก
การก่อสร้างที่เรียบง่ายสามารถทำการก่อสร้างได้รวดเร็วมาก สามารถได้
โบสถ์ที่ประกอบศาสนกิจทางสงฆ์ได้ครบถ้วนเหมือนโบสถ์ที่มีราคา
10,20 หรือ 50 ล้านบาทได้ อีกทั้งยังเป็นการสนองแนวทางเศรษฐกิจ
พอเพียงตามแนวทางพระราชดำริอีกด้วย
ซึ่งเครื่องมือกลที่ใช้บดอัดดิน ด้วยไฟฟ้า ออกแบบจัดสร้างโดย
อ.วีนัส ทัดเนียม สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณวิศวกรรมศาสตร์
สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน— with สุมิตร นวลมณี

บทความโดย
ขอเป็นข้ารองพระบาท ทุกชาติไป
19 ตุลาคม 2011



*** กลุ่มดินรักษ์ฟ้า (DinRakFah)***

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น